คำพิพากษาย่อสั้น
ภาษีบำรุงท้องที่เป็นภาษีที่จัดเก็บจากที่ดินโดยคำนวณจากราคาปานกลางของที่ดินและอัตราภาษีตามบัญชีภาษีบำรุงท้องที่ท้าย พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2508 ในการจัดเก็บภาษีดังกล่าวจึงต้องคำนึงที่ตั้ง ขนาดเนื้อที่ และลักษณะการใช้ที่ดินแต่ละแปลงซึ่งตามมาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2508 ก็บัญญัติ ให้เจ้าของที่ดินซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีบำรุงท้องที่ยื่นแบบแสดงรายการที่ดินเป็นรายแปลง ดังนี้การพิจารณาทุนทรัพย์ที่พิพาทจึงต้องถือตามจำนวนเงินค่าภาษีที่มีการโต้แย้งการประเมินเรียกเก็บภาษีบำรุงท้องที่ของที่ดินแต่ละแปลงแยกจากกันเป็นแต่ละข้อหา คดีนี้เจ้าพนักงานจำเลยแจ้งการประเมินให้โจทก์ชำระภาษีบำรุงท้องที่ประจำปี พ.ศ.2545 ถึงปี พ.ศ.2548 เป็นรายปี สำหรับที่ดินโฉนดเลขที่ 3561, 3562, 3563, 1188 และ 1574 เป็นเงินภาษี 2,194.73 บาท 2,427.75 บาท 2,430.68 บาท 45,552.98 บาท และ 14,307.15 บาท ตามลำดับ เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีพิจารณาอุทธรณ์ของโจทก์แล้ว มีคำวินิจฉัยยืนตามการประเมินของเจ้าพนักงานประเมิน ทุนทรัพย์ที่พิพาทแต่ละข้อหาในคดีจึงไม่เกิน 50,000 บาท อุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่า พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบ มีน้ำหนักฟังได้ว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินได้ประกอบการกสิกรรมประเภทไม้ล้มลุกในที่ดินพิพาททั้ง 5 แปลง ด้วยตนเองตลอดมา เป็นการโต้แย้งดุลพินิจการรับฟังพยานหลักฐานของศาลภาษีอากรกลาง จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 ที่ศาลภาษีอากรกลางสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรไม่รับวินิจฉัย