คำพิพากษาย่อสั้น
จำเลยทำสัญญาเช่าใช้เครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์วิทยุคมนาคมจากกรมไปรษณีย์โทรเลขโจทก์ โดยจำเลยต้องชำระค่าเช่าเดือนละ 900 บาท และจำเลยจะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 กฎหมาย ระเบียบและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดและต้องรับผิดในกรณีที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดนั้น ๆ ด้วย ดังนั้น ประกาศกระทรวงคมนาคมเรื่อง กำหนดให้ผู้ใช้ความถี่วิทยุต้องเสียค่าตอบแทนในการใช้ความถี่วิทยุ จึงเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาเช่าด้วย เมื่อจำเลยไม่ชำระหรือชำระค่าตอบแทนเกินกำหนด จำเลยต้องเสียค่าตอบแทนในการใช้ความถี่วิทยุเพิ่มในอัตราร้อยละ 1 ของค่าตอบแทนในการใช้ความถี่วิทยุที่ต้องชำระต่อวัน นับถัดจากวันครบกำหนดจนถึงวันที่ชำระเสร็จ ตามประกาศกระทรวงคมนาคมฉบับดังกล่าว เงินดังกล่าวจึงเป็นเงินที่จำเลยสัญญาว่าจะใช้ให้แก่โจทก์เป็นเบี้ยปรับเมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้หรือไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องสมควร ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 379 เมื่อเบี้ยปรับนั้นสูงเกินส่วนศาลมีอำนาจลดลงเป็นจำนวนพอสมควรได้ตามมาตรา 383 วรรคหนึ่ง
การที่ศาลล่างทั้งสองไม่กำหนดให้จำเลยใช้ค่าตอบแทนในการใช้ความถี่วิทยุเพิ่ม อันเป็นการงดเบี้ยปรับที่จำเลยต้องรับผิดชำระให้โจทก์เสียทั้งสิ้น ไม่ต้องด้วยเจตนารมณ์ของกฎหมายศาลฎีกาแก้ไขเสียใหม่ให้ถูกต้อง โดยกำหนดให้จำเลยชำระค่าตอบแทนในการใช้ความถี่วิทยุเพิ่มในอัตราวันละ 10 บาท นับตั้งแต่วันถึงกำหนดชำระจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์