คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2827/2539

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์ขอให้กักเรือของจำเลยที่1ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติการกักเรือพ.ศ.2534ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้กักเรือของจำเลยที่1ไว้ตามขอต่อมาโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่1ร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเนื่องจากจำเลยที่1ปฎิบัติผิดสัญญารับขนเป็นคดีนี้ดังนี้การส่งคำคู่ความหรือเอกสารอื่นใดให้แก่จำเลยจึงต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติการกักเรือฯมาตรา29วรรคหนึ่ง(1)ซึ่งบัญญัติว่าถ้ามีตัวแทนให้ส่งแก่ตัวแทนและวรรคสามซึ่งบัญญัติว่าให้ถือว่าจำเลยได้รับคำคู่ความหรือเอกสารนั้นเมื่อระยะเวลาสิบห้าวันได้ล่วงพ้นไปแล้วนับแต่วันที่ได้ส่งหรือปิดคำคู่ความหรือเอกสารนั้น เมื่อพระราชบัญญัติการกักเรือฯบัญญัติถึงวิธีการส่งคำคู่ความให้แก่จำเลยซึ่งมิได้มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักรไว้เป็นพิเศษโดยเฉพาะแล้วจึงไม่อาจนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา83ทวิและมาตรา83ฉอันเป็นบททั่วไปมาใช้บังคับ
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 83 ทวิ
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 83 ฉ
  • พระราชบัญญัติการกักเรือ พ.ศ. 2534 มาตรา 29

ผู้พิพากษา

สวรรค์ ศักดารักษ์
อุดม มั่งมีดี
สันติ ทักราล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android