คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2508

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 19 พ.ย. 2551 14:40:37

คำพิพากษาย่อสั้น

 
(1) การที่พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2490 มาตรา 3 บัญญัติว่า 'สำหรับความผิดครั้งหนึ่งๆ ให้ปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วย' นั้น ก็เพราะมุ่งหมายให้ลงโทษปรับผู้กระทำผิดครั้งหนึ่งๆ เป็นเงินสี่เท่าราคาของรวมทั้งค่าอากรด้วย โดยไม่ต้องให้คำนึงว่าจะมีผู้ร่วมกระทำผิดด้วยหลายคนหรือไม่
(2) โดยที่พระราชบัญญัติศุลกากรมีความมุ่งหมายดังกล่าวนี้เองจึงต้องถือว่าพระราชบัญญัติศุลกากรนี้ได้บัญญัติถึงวิธีการลงโทษปรับผู้กระทำผิดไว้เป็นอย่างอื่นตามความในมาตรา 17 ประมวลกฎหมายอาญาแล้ว เพราะฉะนั้นจะนำเอามาตรา 31 แห่งประมวลกฎหมายอาญามาใช้แก่ผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรไม่ได้กล่าวคือ จะปรับเรียงตัวผู้กระทำผิดไม่ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 30/2507)
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212
  • พระราชบัญญัติอนุมัติพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2503 มาตรา 212
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 17
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 31
  • พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2490 มาตรา 31
  • พระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2503 มาตรา 31
  • พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2499 มาตรา 31
  • พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2480 มาตรา 31
  • พระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 มาตรา 31

ผู้พิพากษา

เจน เวชศิลป์
สอาด นาวีเจริญ
สวิง ลัดพลี

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android