คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15114/2551

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 3 มี.ค. 2554 09:28:54

คำพิพากษาย่อสั้น

 
สัญญาเบิกเงินเกินบัญชีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 กำหนดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 12.5 ต่อปี ถ้าต่อไปโจทก์กำหนดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นหรือลดต่ำลงตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยที่อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บดอกเบี้ยได้ตามอัตราที่ประกาศกำหนด จำเลยที่ 1 ยอมรับที่จะปฏิบัติตามที่โจทก์ได้กำหนดขึ้นใหม่ ดังนั้น เมื่อสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีสิ้นสุดลง โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำนวนเงินที่จำเลยที่ 1 คงเป็นหนี้โจทก์ตามอัตราที่กำหนดไว้ในสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีอันเป็นสิทธิตามสัญญาที่โจทก์พึงได้โดยชอบมาแต่เดิม ซึ่งขณะสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีเลิกกัน โจทก์เรียกเก็บดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 11.5 ต่อปี ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 11.5 ต่อปี จึงชอบแล้ว และข้อตกลงในเรื่องดอกเบี้ยดังกล่าวไม่ใช่เบี้ยปรับ แต่ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดให้จำเลยทั้งสองชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ในอัตราดังกล่าวลักษณะคงที่ตลอดไปนั้นไม่ชอบ เพราะตามสัญญาดังกล่าวจำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ในลักษณะดอกเบี้ยอัตราลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ตามประกาศโจทก์ จึงให้จำเลยทั้งสองรับผิดชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์เป็นอัตราลอยตัวในอัตราเอ็มโออาร์ (อัตราตามประกาศโจทก์เมื่อเทียบกับใบคำนวณยอดหนี้) ตามประกาศโจทก์ แต่ไม่เกินอัตราร้อยละ 11.5 ต่อปี ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แม้จำเลยทั้งสองมิได้ฎีกาในปัญหานี้โดยตรง แต่ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142

ผู้พิพากษา

มานัส เหลืองประเสริฐ
ชวลิต ตุลยสิงห์
วีระชาติ เอี่ยมประไพ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android