คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2539

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ตามสัญญาซื้อขายข้อ8และข้อ9มีความเกี่ยวพันกันโดยลำดับเกี่ยวกับการบังคับเอาแก่จำเลยผู้ขายกรณีผิดสัญญากล่าวคือเมื่อถึงกำหนดส่งมอบแล้วจำเลยผิดนัดไม่ส่งมอบโจทก์ขอใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทันทีตามสัญญาข้อ8และริบหลักประกันตามสัญญาข้อ7เป็นจำนวนทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้และหากโจทก์จัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นจำเลยต้องรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากราคาที่กำหนดไว้ในสัญญาหากโจทก์ไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาโจทก์มีสิทธิเรียกค่าปรับในอัตราร้อยละ0.2ของราคาของที่ยังไม่ได้รับมอบตามสัญญาข้อ9วรรคแรกและในกรณีใช้สิทธิเรียกค่าปรับถ้าโจทก์เห็นว่าในระหว่างที่มีการปรับนั้นจำเลยไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาริบหลักประกันและเรียกให้ชดใช้ราคาของที่เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการปรับได้ตามสัญญาข้อ9วรรคสองไม่มีข้อความตอนใดระบุว่าในกรณีที่ได้มีการปฏิบัติตามสัญญาไปบ้างแล้วเท่านั้นจึงจะปรับเข้ากับสัญญาข้อ9ได้ดังนี้เมื่อปรากฏว่าจำเลยผิดสัญญาโจทก์ได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยทราบและสงวนสิทธิ์ในอันที่จะดำเนินการตามเงื่อนไขที่อ้างถึงในสัญญาข้อ8ข้อ9และข้อ10ไว้ต่อมาได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยส่งมอบสิ่งของตามสัญญาและแจ้งไปด้วยว่าโจทก์ต้องทำการปรับจำเลยด้วยแต่จำเลยเพิกเฉยในระหว่างที่มีการปรับโจทก์เห็นว่าจำเลยไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้จึงได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาถือว่าโจทก์ใช้สิทธิตามสัญญาข้อ9หาใช่สิทธิตามสัญญาข้อ8ไม่โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าปรับในอัตราร้อยละ0.2ของราคาที่ยังไม่รับมอบตามสัญญาจากจำเลยได้ ราคาสิ่งของตามสัญญาซื้อขายมีเพียง92,720บาทโจทก์เรียกค่าปรับมาเป็นเงิน90,123.84บาทนับว่าสูงเกินเงินค่าปรับดังกล่าวเป็นเบี้ยปรับอย่างหนึ่งซึ่งศาลมีอำนาจลดลดเป็นจำนวนสมควรได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา383
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 368
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383

ผู้พิพากษา

ผล อนุวัตรนิติการ
สมปอง เสนเนียม
พิมล สมานิตย์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android