คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3551/2543

 แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

จำเลยทั้งสองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทางภารจำยอมและบริษัท ท. เป็นนิติบุคคลต้องมีผู้แทนดำเนินกิจการ จำเลยที่ 1 เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทจึงอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนของบริษัทในการประกอบกิจการ การที่จำเลยทั้งสองยอมให้รถยนต์ของบริษัทและรถยนต์ของผู้มาติดต่อธุรกิจกับบริษัทจอด ในทางภารจำยอมซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยทั้งสองในลักษณะปิดกั้น หรือกีดขวางการใช้ทางดังกล่าวเข้าออกทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้ทางภารจำยอมย่อมเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภารจำยอมลดไปหรือ เสื่อมความสะดวกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1390
โจทก์ใช้รถยนต์ผ่านทางภารจำยอมซึ่งเดิมเคยใช้เป็นทางเดินเท้าย่อมเป็นการใช้ทางภารจำยอมสัญจรตามปกติ ไม่เป็นการทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1388
เจ้าของที่ดินอันเป็นสามยทรัพย์ย่อมมีสิทธิใช้รถยนต์เข้าออกทางภารจำยอมโดยเสมอหน้ากัน ขึ้นอยู่กับความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของเจ้าของสามยทรัพย์นั้น มิได้ขึ้นอยู่กับจำนวนรถยนต์ที่ใช้ว่ามี จำนวนมากหรือน้อย เหตุนี้การใช้รถยนต์เข้าออกเป็นจำนวน 200 คัน ผ่านทางภารจำยอม หากโจทก์ผู้เป็นเจ้าของสามยทรัพย์ยังดูแลรักษา ทางภารจำยอมมิให้เกิดความเสียหาย ก็ถือได้ว่าโจทก์มิได้ทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ทางภารจำยอมนั้น
โจทก์ขอให้การไฟฟ้านครหลวงดำเนินการเพื่อแทนเสาไฟฟ้าเดิมซึ่งเป็นไปตามความเปลี่ยนแปลงและความเจริญของบ้านเมือง ไม่ทำให้เกิดภาระเพิ่มขึ้นแก่ภารยทรัพย์ โจทก์ย่อมมีสิทธิปักเสาไฟฟ้าดังกล่าว
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 70
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1388
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1390

ผู้พิพากษา

วิชา มหาคุณ
พูนศักดิ์ จงกลนี
ปัญญา สุทธิบดี

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android