คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3088/2526

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

โจทก์จำเลยทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกันเป็นหนังสือ แม้จะมีการวางมัดจำด้วยก็ถือได้ว่าการวางมัดจำเป็นแต่เพียงข้อสัญญาข้อหนึ่งเท่านั้น หาใช่ทำสัญญากันด้วยการวางมัดจำไม่ การที่โจทก์นำสืบพยานบุคคลว่ายังมีข้อตกลงเพิ่มเติมว่าจำเลยจะต้องรื้อบ้านหรือไถ่ถอนจำนองก่อนจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ จึงเป็นข้อความที่เพิ่มเติมจากสัญญาต้องห้ามมิให้รับฟังและถือไม่ได้ว่ามีข้อตกลงดังกล่าว (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1545/2492)
เมื่อระยะเวลาตามสัญญาได้ล่วงพ้นไปแล้ว จำเลยได้กำหนดระยะเวลาพอสมควรให้โจทก์ปฏิบัติการชำระหนี้ โดยจำเลยได้ขอปฏิบัติการชำระหนี้ในการโอนที่ดินให้โจทก์ในวันที่กำหนดตามหนังสือบอกกล่าว จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องมารับโอนและชำระราคาในวันนัด การที่โจทก์ไม่มารับโอนและไม่ชำระราคาโดยไม่มีเหตุที่จะอ้างได้ตามกฎหมายจึงถือว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาและริบมัดจำได้ แม้โจทก์จะกำหนดเวลาโอนขึ้นใหม่ในภายหลังก็ไม่มีผล
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 203
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 205
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 207
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 208
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 210
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 211
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 212
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 377
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 378
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

ผู้พิพากษา

วีระ ทรัพยไพศาล
พิศิษฏ์ เทศะบำรุง
สุชาติ จิวะชาติ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android