คำพิพากษาย่อสั้น
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละสองพันบาท ซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงนั้น แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยข้อเท็จจริงมาก็ถือว่าข้อเท็จจริงนั้นมิได้ว่ากันมาแล้วโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
โจทก์บรรยายฟ้องเป็นใจความว่า เดิมบ้านพิพาทเป็นของนางตุงกูสะราห์บินตำมะหงงให้จำเลยเช่าประกอบการค้า เมื่อเดือนธันวาคม 2512 โจทก์ได้รับโอนกรรมสิทธิ์บ้านดังกล่าวจากนางตุงกูสะราห์ได้แจ้งให้จำเลยทราบและให้โอกาสจำเลยอยู่ชั่วคราวจำเลยไม่ตกลง โจทก์จึงให้ทนายบอกกล่าวให้จำเลยออกไป จำเลยทราบแล้วก็ยังคงอยู่โดยละเมิดเสียหายเท่าค่าเช่าอย่างต่ำเดือนละ 350 บาท ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารกับใช้ค่าเสียหายดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมเพราะโจทก์ได้บรรยายโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาไว้ครบบริบูรณ์แล้ว โจทก์หาจำเป็นต้องส่งเอกสารซื้อขายบ้านพิพาทพร้อมกับฟ้องไม่
ฟ้องแย้งของจำเลยที่ว่า หากโจทก์ซื้อและรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านพิพาทมาจริงขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายนั้นเสียเพื่อจำเลยจะได้ใช้สิทธิเป็นผู้ซื้อได้ก่อนเป็นคนแรกตามสิทธิที่มีอยู่ในสัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับสามีนางตุงกูสะราห์บินตำมะหงงนั้นเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับบุคคลภายนอก จำเลยไม่มีส่วนได้เสียถึงกับจะขอให้ศาลสั่งเพิกถอนนิติกรรมซื้อขายนั้น ฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม