คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2517

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

โจทก์ผู้ร้องขัดทรัพย์และจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า หากขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไว้ได้เงินสุทธิเท่าใดให้โจทก์มีสิทธิได้รับชำระหนี้ 2ใน 3 ส่วน เงินส่วนที่เหลือให้ผู้ร้องขัดทรัพย์รับไป เช่นนี้ ก็ต้องถือว่าเงินส่วนที่เหลือจาก 2 ใน 3 ส่วนของเงินสุทธิที่ขายทอดตลาดได้ตกเป็นของผู้ร้องขัดทรัพย์ตามที่ได้ตกลงกันไว้ เงินจำนวนนี้จึงไม่ใช่เงินของจำเลย
เมื่อผู้ร้องขัดทรัพย์เป็นผู้ซื้อทรัพย์ที่ยึดได้จากการขายทอดตลาดครั้งแรกในราคา 80,000 บาท แต่ผู้ร้องขัดทรัพย์ไม่วางเงินมัดจำในการซื้อทรัพย์และได้ทำสัญญาขอผัดชำระเงินผลที่สุดได้ผิดสัญญาไม่นำเงินมาชำระและได้ยอมให้จัดการขายทอดตลาดทรัพย์ใหม่ตามสัญญายอมรับผิดที่ทำไว้กับเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า หากการขายทอดตลาดทรัพย์ครั้งหลังได้ราคาต่ำกว่าการขายครั้งก่อนเท่าไร ผู้ร้องขัดทรัพย์ยอมใช้เงินให้เต็มจำนวนตามที่ผู้ร้องขัดทรัพย์ได้รับซื้อไว้ครั้งก่อน ฉะนั้น เมื่อขายทอดตลาดทรัพย์ครั้งหลังได้ในราคา 61,000 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาขายครั้งแรกก็ต้องคิดส่วนได้ของโจทก์และค่าธรรมเนียมการขายทอดตลาดเต็มจำนวนเสมือนหนึ่งขายทอดตลาดได้ราคาเท่าการขายทอดตลาดครั้งแรกเงินส่วนได้ของผู้ร้องขัดทรัพย์จากการขายทอดตลาดครั้งหลังจึงต้องตกอยู่ในบังคับที่จะนำไปชดใช้ส่วนที่ขายทอดตลาดได้ราคาต่ำไปนั้นด้วย
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 278
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 322

ผู้พิพากษา

สนับ คัมภีรยส
วิกรม เมาลานนท์
สุธี ชอบธรรม

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android