คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2543

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์ใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้ยาไดอาซีแพม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในประเภทที่ 4ปลอมปนใส่ในเครื่องดื่มนมเปรี้ยวยี่ห้อยาคูลท์ให้ผู้เสียหายกับ ซ. ดื่มเป็นเหตุให้ผู้เสียหายหมดสติอยู่ในภาวะขัดขืนไม่ได้ แล้วพวกของจำเลยได้เอาสร้อยพลอย91 เส้น ของผู้เสียหายไป แม้จะตรวจพบยาไดอาซีแพมในขวดเครื่องดื่มนมเปรี้ยวก็ตาม แต่หลังเกิดเหตุ 3 ชั่วโมง ได้ตรวจปัสสาวะของผู้เสียหายกับ ซ. ไม่พบยานอนหลับซึ่งเป็นยาระงับประสาทกลุ่มเบนโซไดอะซีฟิน หรือกลุ่มยากระตุ้นประสาทหรือระงับประสาทอื่น ๆ แสดงว่าขณะเกิดเหตุบุคคลทั้งสองมิได้ดื่มเครื่องดื่มนมเปรี้ยวยี่ห้อยาคูลท์ที่มียาไดอาซีแพมปลอมปนเพราะยาไดอาซีแพมเป็นวัตถุออกฤทธิ์อย่างหนึ่งในกลุ่มของเบนโซไดอะซีฟิน หากอยู่ในร่างกายมนุษย์แล้วจะมีตัวยาซึมอยู่ในร่างกายประมาณ 3 ถึง 4 วัน และสามารถตรวจสอบปัสสาวะได้ ประกอบกับโจทก์ไม่สามารถนำผู้เสียหายกับ ซ. ซึ่งเป็นประจักษ์พยานมาเบิกความยืนยันข้อเท็จจริง คงมีเฉพาะคำให้การชั้นสอบสวนของบุคคลทั้งสองและคำให้การรับสารภาพของจำเลยทั้งสองในชั้นจับกุมเท่านั้น พยานโจทก์ดังกล่าวจึงเป็นเพียงพยานบอกเล่ามีน้ำหนักน้อย ไม่เพียงพอที่จะรับฟังว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227

ผู้พิพากษา

ปัญญา สุทธิบดี
พูนศักดิ์ จงกลนี
วิชา มหาคุณ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android