คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5240/2548

 แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
 เผยแพร่เมื่อ: 16 พ.ค. 2551 15:42:04

คำพิพากษาย่อสั้น

 
อำนาจในการสั่งรับหรือไม่รับคำโต้แย้งของคู่ความตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 264 วรรคหนึ่ง ไว้พิจารณา เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 264 วรรคสอง แต่อำนาจในการวินิจฉัยว่าคำโต้แย้งของคู่ความเข้าหลักเกณฑ์ที่จะต้องส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่เป็นอำนาจของศาลยุติธรรมตามมาตรา 264 วรรคหนึ่ง มิใช่ว่าหากคู่ความมีคำโต้แย้งในเรื่องนี้อย่างไรแล้วศาลยุติธรรมจะต้องส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทุกกรณีไป
คำโต้แย้งของจำเลยที่ 3 ที่กล่าวอ้างในคำร้องมีใจความเพียงว่า อุทธรณ์ของจำเลยที่ 3 เป็นอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 มิใช่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลที่จะต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมาวางศาลตามมาตรา 229 ดังนั้น บทบัญญัติมาตรา 229 ที่ใช้บังคับแก่คดีจึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 30 จำเลยที่ 3 จึงได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายไม่เท่าเทียมกัน บทบัญญัติมาตรา 229 ใช้บังคับไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 6 คำโต้แย้งดังกล่าวไม่ชัดแจ้งว่า บทบัญญัติมาตรา 229 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 30 อย่างไรหรือเป็นเพราะเหตุใดบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวก่อให้เกิดผลที่จะทำให้บุคคลไม่มีความเสมอกันในกฎหมายหรือได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายไม่เท่าเทียมกัน เป็นคำโต้แย้งที่ไม่ต้องด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 6 ประกอบมาตรา 264 ศาลปฏิเสธไม่ส่งคำโต้แย้งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้และคำสั่งของศาลมิใช่เป็นการวินิจฉัยว่าบทบัญญัติกฎหมายใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 264

ผู้พิพากษา

มนตรี ยอดปัญญา
ปัญญา ถนอมรอด
เฉลิมศักดิ์ บุญยงค์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android