คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7029/2549

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เดิมผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเดิม แบ่งแยกที่ดินดังกล่าวออกเป็น 10 แปลง และปลูกสร้างตึกแถวเป็นอาคารพาณิชย์เพื่อขายให้บุคคลทั่วไป โดยเว้นที่ดินแปลงพิพาทไว้ 1 แปลง สละให้เป็นถนนเชื่อมกับถนนของตลาดสด และศูนย์การค้า ออกสู่ถนน ผู้ซื้ออาคารพาณิชย์และบุคคลทั่วไปใช้ถนนดังกล่าวเป็นทางสัญจรติดต่อกันมาประมาณ 22 ปี โดยไม่มีผู้ใดโต้แย้ง โจทก์ซื้อที่ดินพร้อมอาคารพาณิชย์ที่แบ่งแยกมาจากที่ดินเดิมเมื่อปี 2527 และใช้ที่ดินพิพาทซึ่งอยู่ติดกับที่ดินโจทก์เป็นทางสัญจรตลอดมา โดยสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาใช้เป็นทางสัญจร ติดต่อกันมาเป็นเวลา 12 ปี ที่ดินพิพาทจึงตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินแปลงของโจทก์โดยอายุความ ฟ้องโจทก์จึงแสดงโดยแจ้งชัดถึงสภาพแห่งข้อหา คำขอบังคับ และข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหานั้นแล้ว โจทก์ไม่จำต้องบรรยายว่า ใช้ที่ดินพิพาทเป็นทางสัญจรโดยการเดินเท้าหรือใช้รถยนต์ เพราะเป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณา ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
การที่โจทก์เรียกเก็บค่าเช่าแผงสินค้าที่ตั้งอยู่บนที่พิพาทก็เป็นเพราะแผงดังกล่าวตั้งอยู่หน้าที่ดินของโจทก์ และหากผู้เช่าแผงขายสินค้าใช้น้ำประปาและไฟฟ้าจากอาคารพาณิชย์ของโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกเก็บค่าใช้จ่ายดังกล่าวจากผู้เช่าแผงขายสินค้าได้ เพราะโจทก์ต้องนำไปชำระให้แก่การประปานครหลวง และการไฟฟ้านครหลวงซึ่งเป็นผู้ให้บริการสาธารณูปโภคดังกล่าว สิทธิของโจทก์ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทตามฟ้องโจทก์ว่า ที่ดินพิพาทเป็นทางสาธารณะ หรือเป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์หรือไม่ การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ จึงเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริต
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172

ผู้พิพากษา

ประเสริฐ วิริยสิทธาวัฒน์
สิทธิชัย รุ่งตระกูล
ธนัท วิรบุตร์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android