คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3310/2549

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไปในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง และไม่ได้แจ้งกำหนดวันเวลาขายทอดตลาดให้จำเลยที่ 2 ทราบ กรณีตามคำร้องของจำเลยที่ 2 จึงอยู่ภายใต้บังคับของ ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคห้า ซึ่งบัญญัติว่า "ในการยื่นคำร้องต่อศาลตามมาตรานี้ หากมีพยานหลักฐานเบื้องต้นแสดงว่าคำร้องนั้นไม่มีมูลและยื่นเข้ามาเพื่อประวิงให้ชักช้า เมื่อศาลเห็นสมควรหรือเมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลอื่นที่อาจได้รับความเสียหายเนื่องจากการยื่นคำร้องดังกล่าวร้องขอ ศาลมีอำนาจที่จะสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องวางเงินหรือหาประกันต่อศาลตามจำนวนและภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนด เพื่อเป็นประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลนั้นได้ ถ้าผู้ยื่นคำร้องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ให้ศาลมีคำสั่งยกคำร้องนั้นเสีย คำสั่งของศาลที่ออกตามความในวรรคนี้ให้เป็นที่สุด" ข้อเท็จจริงปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยที่ 2 นำเงินจำนวน 50,000 บาท มาวางเป็นประกันค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ซื้อทรัพย์ภายใน 15 วัน จำเลยที่ 2 ไม่นำเงินมาวางภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด แต่กลับยื่นคำแถลงขอขยายระยะเวลาวางเงินออกไปอีก เมื่อศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินประกันและมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของจำเลยที่ 2 คำสั่งศาลชั้นต้นย่อมเป็นที่สุดตามบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 223 ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 มาเป็นการไม่ชอบ และไม่ก่อสิทธิแก่จำเลยที่ 2 ในการที่จะฎีกาต่อมาอีก
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223

ผู้พิพากษา

มนตรี ยอดปัญญา
สบโชค สุขารมณ์
ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android