คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2240/2538

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
คำร้องของจำเลยที่ขอให้ศาลหมายเรียกบริษัทบ.เข้ามาเป็นจำเลยร่วมนั้นอ้างเหตุว่าจำเลยได้ทำสัญญาเช่าโรงแรมพิพาทจากบริษัทดังกล่าวซึ่งเป็นผู้จะซื้อโรงแรมพิพาทจากโจทก์โดยโจทก์มอบอำนาจให้บริษัทบ.เป็นตัวแทนในการที่จะให้บุคคลภายนอกเช่าโรงแรมพิพาทได้จำเลยได้ชำระค่าเช่าล่วงหน้าและค่าเช่าประจำเดือนให้แก่บริษัทดังกล่าวไปแล้วหากจำเลยแพ้คดีโจทก์จำเลยย่อมมีสิทธิฟ้องไล่เบี้ยจากบริษัทบ.ในฐานะที่เป็นผู้ผิดสัญญาเช่าที่ทำไว้กับจำเลยได้ตามคำร้องของจำเลยดังกล่าวแสดงว่าจำเลยมีสิทธิที่จะใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าต่อไปโดยอาศัยสัญญาเช่าฉบับใหม่ที่ทำขึ้นระหว่างบริษัทบ.กับจำเลยมิใช่เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์กรณีมีเหตุสมควรที่จะเรียกบริษัทบ. เข้ามาในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา57(3)(ก) จำเลยฎีกาขอให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่จำเลยต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาเพียง200บาทตามตาราง1(2)ผขแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งจึงให้คืนค่าขึ้นศาลส่วนที่เกินให้แก่จำเลย
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57

ผู้พิพากษา

ชลอ ทองแย้ม
ประสิทธิ์ แสนศิริ
ทวิช กำเนิดเพ็ชร์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android