คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5012/2533

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
เมื่อพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องคดีนี้อยู่แล้ว การที่โจทก์ร่วมที่ 1 จะเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้หรือไม่ ไม่มีผลทำให้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เปลี่ยนแปลงไปเป็นประการอื่นได้ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้อที่ว่าโจทก์ร่วมที่ 1 ไม่ใช่ผู้เสียหายเพราะมีส่วนประมาทด้วย การที่จำเลยขับรถจะเลี้ยวซ้าย แต่ไม่นำรถเข้าชิด ขอบทางเดินรถด้านซ้าย กลับเลี้ยวรถโดยตัดหน้ารถโจทก์ร่วมที่ 1 ในระยะกระชั้นชิดจนเป็นเหตุให้รถทั้งสองคันชนกัน ทำให้โจทก์ร่วมทั้งสามได้รับอันตรายสาหัสและรถที่โจทก์ร่วมที่ 1 ขับไปรับความเสียหาย ถือได้ว่าเป็นการกระทำในครั้งคราวเดียวที่ต่อเนื่องเกี่ยวพันกันอันเป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว หาใช่เป็นการกระทำผิดสำเร็จแต่ละตอนแยกจากกันเป็นความผิดต่างกรรมกันไม่.
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 30

ผู้พิพากษา

ประศาสน์ ธำรงกาญจน์
ถาวร ตันตราภรณ์
วินัย กันนะ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android