คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3201/2533

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
นายจ้างจะเลิกจ้างลูกจ้างซึ่ง เป็นกรรมการลูกจ้างได้ต่อ เมื่อได้ รับอนุญาตจากศาลแรงงานก่อน และเมื่อได้ รับอนุญาตแล้วนายจ้างจะต้อง มีคำสั่งเลิกจ้างอีกครั้งหนึ่ง คดีนี้หลังจาก ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยเลิกจ้างโจทก์ จำเลยไม่ได้มีคำสั่งเลิกจ้างแต่ โจทก์ได้ กล่าวมาในฟ้องว่าเมื่อ ศาลฎีกา พิพากษายืนตาม คำสั่ง ศาลแรงงานกลาง ที่อนุญาตให้เลิกจ้างโจทก์แล้วโจทก์ยังคงมีนิติสัมพันธ์อยู่กับจำเลยอย่างเดิม จนถึง วันที่ ศาลฎีกา มีคำพิพากษาเท่ากับโจทก์ยอมรับว่าจำเลยได้ เลิกจ้างโจทก์ในวันที่ ศาลฎีกา มีคำพิพากษา ต้องถือ ว่าการเลิกจ้างมีผลนับแต่วันที่ ศาลฎีกา มีคำพิพากษายืนตาม คำสั่ง ศาลแรงงานกลาง โจทก์ซึ่ง เป็นลูกจ้างประจำรายเดือน จึงมีสิทธิได้ รับค่าจ้างในอัตราเดิม นับแต่วันที่จำเลยหยุดดำเนิน กิจการตาม มติคณะรัฐมนตรีที่ให้แปรรูปองค์การจำเลยจนถึง วันที่มีคำพิพากษาศาลฎีกา อันเป็นช่ วงเวลาที่โจทก์ไม่ได้ทำงานโดย ไม่ใช่ความผิดของโจทก์และจำเลยต้องจ่ายค่าชดเชยกับเงินบำเหน็จโดย จะต้อง นำค่าครองชีพซึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้างมารวมเป็นฐาน คำนวณให้แก่โจทก์ด้วย.
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 5
  • พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 52
  • ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน มาตรา 52

ผู้พิพากษา

ครีภูมิ สุวรรณโรจน์
ศักดา โมกขมรรคกุล
ประคนธ์ พันธุ์วิชาติกุล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android