คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1009/2533

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ระหว่างการพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น โจทก์จำเลยตกลง กันได้ และต่าง แถลงต่อ ศาลร่วมกันว่าจำเลยได้ ชำระเงินแก่โจทก์เกือบหมดแล้วส่วนที่เหลือจำเลยจะนำเงินมาชำระให้โจทก์ในวันรุ่งขึ้นจากวันที่ตกลง กันโดย จำเลยจะออกเช็ค เงินสดให้โจทก์ไว้ ทนายโจทก์แถลงว่าเมื่อได้ รับเงินตาม เช็ค ที่จำเลยออกให้แล้วโจทก์จะคืนเช็ค เดิม ที่จำเลยที่ 3 ออกให้ไว้ล่วงหน้าแก่จำเลย และโจทก์จะถอนฟ้องจำเลยศาลชั้นต้นจึงเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไป เมื่อถึง วันนัดฟังคำพิพากษา ทนายโจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยได้ ชำระหนี้ตาม เช็ค แล้วทนายโจทก์เห็นควรให้ถอนฟ้อง แต่ โจทก์ไม่ยอมถอนฟ้อง ดังนี้เมื่อคดีเป็นความผิดต่อส่วนตัว และใบแต่งทนายความปรากฏว่าทนายโจทก์มีอำนาจประนีประนอมยอมความแทนโจทก์ได้ ทนายโจทก์ย่อมจะขอยอมความได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 35 วรรคสอง และมีผลผูกพันโจทก์การที่ทนายโจทก์แถลงต่อหน้าศาลว่าจะถอนฟ้องไม่ ดำเนินคดีแก่จำเลยและเมื่อโจทก์ได้ รับเงินตาม เช็ค ที่จำเลยออกให้แก่โจทก์ ต่อมาทนายโจทก์ได้ ยื่นคำร้องว่าจำเลยได้ ชำระหนี้ตาม เช็ค นั้นแล้ว โจทก์มีหน้าที่ถอนฟ้อง และมีผลเป็นการยอมความ ทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39(2).
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39
  • พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3

ผู้พิพากษา

จำลอง สุขศิริ
อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง
สัญชัย สิงหลกะ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android