คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2533

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ข้อความตอนต้น ของสัญญาระบุว่าโจทก์ที่ 1 เป็นผู้ว่าจ้างมีวงเล็บ ชื่อ โจทก์ที่ 2 ต่อ ท้ายชื่อ ของโจทก์ที่ 1 เท่านั้น โจทก์ที่ 1 ลงชื่อในฐานะ คู่สัญญาฝ่ายผู้ว่าจ้างโดย ไม่ระบุว่ากระทำแทนโจทก์ที่ 2 การที่จำเลยเป็นผู้จัดทำสัญญานี้ขึ้น โดย ไม่ปรากฏพฤติการณ์ให้เข้าใจว่าโจทก์ที่ 2 เป็นคู่สัญญากับจำเลยที่ 1 ดังนี้โจทก์ที่ 1 มีอำนาจฟ้อง โจทก์ที่ 1 บรรยายฟ้องในส่วนค่าเสียหายว่า การที่จำเลยที่ 1ผิดสัญญาทำให้โจทก์ที่ 1 ได้ รับความ เสียหายคือขาดประโยชน์จากการขายมันเม็ดแข็งแก่ลูกค้าซึ่ง ทำสัญญาซื้อ ไว้กับโจทก์ที่ 1 ภายหลังจากโจทก์ที่ 1 ตกลง ว่าจ้างให้จำเลยที่ 1 ก่อสร้างเครื่องจักรแล้วเป็นเงินจำนวนหลายล้านบาท เสียค่าทำแท่นลงเสาเข็มไว้รอรับเครื่องจักรและเสียค่าจ้างเพิ่มในการว่าจ้างให้ผู้อื่นทำเครื่องจักใหม่ โจทก์ขอค่าเสียหายทุกรายการเป็นเงินหนึ่งล้านบาท ดังนี้เป็นการบรรยายฟ้องที่แสดงโดย ชัดแจ้งซึ่ง สภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว ฟ้องโจทก์ในส่วนค่าเสียหายไม่เคลือบคลุม.
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172

ผู้พิพากษา

ถาวร ตันตราภรณ์
วินัย กันนะ
ประศาสน์ ธำรงกาญจน์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android