คำพิพากษาย่อสั้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานจำเลยรวม 5 ปาก เพราะพยานเหล่านี้กับพยานที่จำเลยที่ 1 และที่ 5 นำเข้าสืบแล้วกับตัวจำเลยที่ 1 เป็นพยานคู่กัน แม้สืบไปก็ได้ความเหมือนกับที่จำเลยที่ 1 กับพวกเบิกความมาแล้วทั้งได้ความจากสำนวนสอบสวนเพื่อพิจารณา ทัณฑ์ทางวินัยแก่จำเลยที่ 1ว่าพยานเหล่านี้ไม่เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ แต่มารู้เห็นเมื่อเกิดเหตุแล้ว สืบไปก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดี คำสั่งงดสืบพยานจึงชอบแล้ว.
โจทก์และจำเลยที่ 1 เป็นนักเรียนโรงเรียนพลตำรวจภูธร 4ของกรมตำรวจจำเลยที่ 5 การที่จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 5 การฝึกชัยยะ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยที่ 1 ในฐานะนักเรียนพลตำรวจตามคำสั่งและนโยบายของจำเลยที่ 5 เมื่อการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยที่ 1 เกิดความเสียหายขึ้นก็เรียกได้ว่าจำเลยที่ 1 ทำละเมิดในหน้าที่การงาน กรมตำรวจ จำเลยที่ 5 แม้ไม่ได้ร่วมทำละเมิดและมิได้เป็นลูกจ้างนายจ้างหรือตัวแทนก็จำต้องร่วมรับผิดเสียค่าสินไหมทดแทน เพื่อความเสียหายนั้นด้วยตาม ป.พ.พ.มาตรา 76.
การที่ปืนในความครอบครองของจำเลยที่ 1 ลั่นขึ้นและโจทก์ได้รับอันตรายสาหัสเป็นการทำให้โจทก์เสียหายแก่ร่างกายซึ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา 444 โจทก์ชอบที่จะได้รับชดใช้ค่าใช้จ่ายอันตนต้องเสียไปกับเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอย่างอื่นอันมิใช่ตัวเงินตามมาตรา 446 การวินิจฉัยถึงค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าจะต้องคำนึงถึงฐานะและรายได้ของผู้เสียหายด้วย.