คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2538

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
พนักงานอัยการเคยฟ้องโจทก์ผู้เป็นมารดาจำเลยในเรื่องขอแบ่งแยกที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยโดยอ้างว่าจำเลยมีกรรมสิทธิ์กึ่งหนึ่งเป็นการฟ้องแทนจำเลยเพราะจำเลยต้องห้ามฟ้องบุพการีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1562ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องโดยฟังว่าจำเลยมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทแทนโจทก์คำพิพากษาย่อมผูกพันจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา145วรรคแรกเมื่อประเด็นพิพาทในคดีนี้มีว่าโจทก์หรือจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทคดีจึงไม่จำต้องสืบพยานโจทก์จำเลยอีกต่อไป โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาททั้งแปลงโดยให้จำเลยถือกรรมสิทธิ์รวมแทนด้วยขอให้เพิกถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดที่พิพาทจึงเป็นการใช้สิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินจากผู้ไม่มีสิทธิยึดถือไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1336เป็นกรณีไม่มีอายุความและหาใช่เป็นการฟ้องเพิกถอนการฉ้อฉลตามมาตรา240ไม่
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1562
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145

ผู้พิพากษา

อากร อัชกุล
สุทธิ นิชโรจน์
สุชาติ ถาวรวงษ์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android