คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5831/2534

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยที่ 3 มีเรื่องชกต่อยกับ ส. ก่อน แล้วจำเลยที่ 3 พาพวกคือจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 มาดักรอผู้เสียหายกับผู้ตาย แล้วร่วมกันยิงและทำร้ายทันที โดยจำเลยที่ 1 และที่ 2 ยิงผู้ตาย และจำเลยที่ 1 ยิง ส.กับจำเลยที่4ใช้ไม้ตีห. แม้จำเลยที่ 3จะมิได้มีอาวุธติดตัวมาและลงมือกระทำผิดด้วยก็ตาม แต่การกระทำของจำเลยที่ 3 ดังกล่าวเป็นการรวมกำลังให้แก่พวกจำเลยอื่น พร้อมที่จะช่วยเหลือกันได้ เมื่อเกิดเหตุแล้วก็หนีไปด้วยกัน ย่อมถือได้ว่าจำเลยทั้งสี่เป็นตัวการร่วมกันกระทำความผิด ในการพิจารณาคดีอาญา โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้ฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิด เมื่อโจทก์มิได้นำสืบข้อเท็จจริงให้เห็นว่าอาวุธปืนที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ใช้ยิงผู้ตายกับผู้เสียหายไม่มีหมายเลขทะเบียน ทั้งโจทก์ไม่ได้อาวุธปืนมาเป็นของกลาง และไม่มีพยานหลักฐานอื่นที่พิสูจน์ให้เห็นว่าอาวุธปืนนั้นไม่มีหมายเลขทะเบียน จึงลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ฐานมีอาวุธปืนไม่มีหมายเลขทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นไม่ได้ แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ได้รับใบอนุญาตให้พาอาวุธปืนเป็นผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายกับผู้เสียหายแล้วพาอาวุธปืนนั้นไปจำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงต้องมีความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต.
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 174
  • พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7
  • พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ
  • พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 72
  • พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 72 ทวิ

ผู้พิพากษา

พินิจ ฉิมพาลี
ชุม สุกแสงเปล่ง
เทพฤทธิ์ ศิลปานนท์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android