คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2534

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
การที่จำเลยขอกู้ยืมเงินจากผู้คัดค้าน และผู้คัดค้านตกลงยินยอมให้กู้ เมื่อผู้คัดค้านมอบเงินที่กู้ให้จำเลยรับไป การกู้ยืมก็เกิดขึ้น ผู้คัดค้านจึงอยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยในทันทีนั้นเอง หลังจากนั้นการที่จำเลยจำนองที่ดินพิพาทเพื่อเป็นประกันหนี้เงินกู้ยืมดังกล่าวให้แก่ผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านจึงเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยอยู่ก่อนแล้วในขณะที่มีการทำสัญญาและจดทะเบียนจำนองตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 115 การจำนองที่ดินพิพาทไว้เป็นประกันเงินกู้แก่ผู้คัดค้านมีผลบังคับนับแต่วันที่มีการทำสัญญาเป็นหนังสือและจดทะเบียนกันคือวันที่ 31 มกราคม 2527 โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลาย วันที่13 กุมภาพันธ์ 2527 จำเลยมอบอำนาจให้ ช. ไปทำการจำนองดังกล่าวจึงเป็นการที่จำเลยกระทำหรือยินยอมให้กระทำในระหว่างระยะเวลาสามเดือนก่อนมีการขอให้ล้มละลาย และเมื่อจำเลยเป็นหนี้เจ้าหนี้ถึง 134 ราย รวมเป็นเงินประมาณ 99,000,000 บาท แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รวบรวมทรัพย์สินของจำเลยได้เพียง 711,227.45 บาทจำเลยมีหนี้สินรวมกันมากกว่าจำนวนทรัพย์สินที่จำเลยมีอยู่หลายเท่าตัว จำเลยจำนองที่ดินพิพาทเป็นประกันเงินกู้แก่ผู้คัดค้านเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ก่อนที่จำเลยจะถูกฟ้องขอให้ล้มละลายเพียง 13 วัน ทั้งผู้คัดค้านก็มิได้นำสืบว่ากิจการของจำเลยกำลังรุ่งเรืองแต่อย่างใด พฤติการณ์แห่งคดีดังกล่าวแสดงว่า จำเลยกระทำโดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่นตามมาตรา 115
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 714
  • พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 115

ผู้พิพากษา

สมพงษ์ สนธิเณร
สวิน อักขรายุธ
ราเชนทร์ จัมปาสุต

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android