คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 866/2534

 แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเบิกเงินเกินบัญชีตามเอกสารหมายเลข 33และ 34 ท้ายฟ้อง ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง เอกสารดังกล่าวมีรายละเอียดของรายการต่าง ๆ ไว้แล้ว จำเลยย่อมสามารถตรวจสอบได้คำฟ้องของโจทก์จึงถือได้ว่าได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม สัญญากู้ระบุว่าผู้กู้ตกลงจะชำระหนี้ตามสัญญานี้ภายในวันที่ 27สิงหาคม 2525 แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิผู้ให้กู้ที่จะเรียกร้องให้ผู้กู้ชำระหนี้ตามสัญญานี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก่อนถึงกำหนดที่กล่าวมาก็ได้ตามแต่ผู้ให้กู้จะเห็นสมควร โดยมิพักต้องชี้แจงแสดงเหตุ และผู้กู้สัญญาว่าในกรณีที่ผู้ให้กู้เรียกร้องดังกล่าวมานี้ ผู้กู้จะชำระหนี้ตามที่เรียกร้องทันที ข้อสัญญานี้ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน สัญญามีผลผูกพันกันได้ ทนายโจทก์ได้ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญากู้กับสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีและบอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยทางไปรษณีย์ตอบรับลงทะเบียนแต่ไม่ได้รับใบตอบรับโดยไม่ทราบเหตุขัดข้อง จึงไปทำคำร้องขอไต่สวนไปรษณีย์ตอบรับในประเทศ ต่อมาทนายโจทก์ได้รับแจ้งจากการสื่อสารแห่งประเทศไทยว่าส่งได้โดยระบุวันที่ส่งและชื่อผู้รับมาด้วยตามใบตอบรับที่เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ได้จัดทำขึ้นตามหน้าที่ ทั้งระบุสถานที่นำหนังสือไปส่งตรงกับภูมิลำเนาของจำเลย ใบตอบรับดังกล่าวทำภายหลังจากทนายโจทก์ทำคำร้องขอไต่สวน การไม่มีลายมือชื่อของผู้รับในใบตอบรับจึงไม่เป็นพิรุธ ฟังได้ว่าจำเลยได้รับหนังสือดังกล่าวแล้ว
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 368
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 650
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 652
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 735
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 104

ผู้พิพากษา

ชุม สุกแสงเปล่ง
เทพฤทธิ์ ศิลปานนท์
พินิจ ฉิมพาลี

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android