คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 73/2538

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยทั้งหกเคยฟ้องฟ้องเรียกค่าชดเชยสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและเงินจำนวนอื่นจากโจทก์แม้โจทก์จะให้การต่อสู้คดีว่าโจทก์ไม่ต้องรับผิดเพราะโจทก์เลิกจ้างจำเลยทั้งหกเนื่องจากจำเลยทั้งหกกระทำผิดโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้สินจ้างของโจทก์สูญหายไปประเด็นต้องวินิจฉัยในคดีก่อนก็มีเพียงว่าจำเลยทั้งหกฟ้องเรียกค่าชดเชยสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและเงินจำนวนอื่นได้เพียงใดหรือไม่ไม่มีประเด็นว่าจำเลยทั้งหกต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่ทำให้สินค้าของโจทก์สูญหายไปให้โจทก์เพียงใดหรือไม่การที่โจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งหกโดยกล่าวอ้างว่าจำเลยทั้งหกได้กระทำละเมิดโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อให้สินค้าของโจทก์สูญหายไปจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ คดีก่อนศาลมีคำ พิพากษาถึงที่สุดว่าโจทก์เลิกจ้างจำเลยทั้งหกโดยจำเลยทั้งหกไม่ได้กระทำผิดจำเลยทั้งหกไม่ได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้สินค้าของโจทก์สูญหายไปดังที่โจทก์ให้การต่อสู้คดีในคดีก่อน คำพิพากษาดังกล่าวย่อม ผูกพันโจทก์ โจทก์จึงมาฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งหกโดยอ้างว่าจำเลยทั้งหกกระทำละเมิดโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้สินค้าของโจทก์สูญหายไปไม่ได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
  • พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 31

ผู้พิพากษา

พรชัย สมรรถเวช
สมภพ โชติกวณิชย์
ชลอ บุณยเนตร

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android