คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2252/2535

 แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยที่ 3 ได้ออกหนังสือค้ำประกันการยื่นซองประกวดราคาก่อสร้างอาคารของจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์ว่า จำเลยที่ 3 ขอรับเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ไว้ต่อโจทก์ หากจำเลยที่ 1 ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของโจทก์ในการยื่นซองประกวดราคาเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย และโจทก์ไม่สามารถเรียกร้องเอาจากจำเลยที่ 1 ได้แล้วจำเลยที่ 3 จะเป็นผู้ชำระเงินค่าเสียหายแทนจำเลยที่ 1 หนังสือค้ำประกันฉบับนี้มีกำหนดอายุค้ำประกัน120 วัน โดยโจทก์จะต้องแจ้งการผิดสัญญาของจำเลยที่ 1 ให้จำเลยที่ 3 ทราบภายในกำหนดดังกล่าวด้วย ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาไม่ยอมไปทำสัญญาก่อสร้างกับโจทก์ตามที่ยื่นซองประกวดราคาได้ โจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยที่ 3 ชำระหนี้ที่ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ไว้แม้จำเลยที่ 3 ไม่ได้ยกข้อต่อสู้ในข้อที่โจทก์ไม่ได้บอกเรื่องจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาประกวดราคา ให้จำเลยที่ 3 ทราบภายในระยะเวลาที่ค้ำประกันเพียงแต่ขอให้ไปเรียกร้องเอาจากจำเลยที่ 1 ก่อนก็ตามก็ไม่เป็นการสละข้อต่อสู้ในเรื่องระยะเวลาค้ำประกันดังนั้น ภายหลังเมื่อถูกโจทก์ฟ้องแล้ว จำเลยที่ 3 ย่อมมีสิทธิให้การต่อสู้คดีโดยยกข้อต่อสู้ต่าง ๆ ที่มีอยู่รวมทั้งเหตุดังกล่าวขึ้นเป็นข้อเถียงเพื่อปฏิเสธความรับผิดของตนได้ เมื่อจำเลยที่ 3 ได้ยกเหตุดังกล่าวให้ขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การแล้วและข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ไม่ได้แจ้งให้จำเลยที่ 3 ทราบภายในกำหนดระยะเวลาที่ค้ำประกันว่า จำเลยที่ 1 ผิดสัญญาประกวดราคาต่อโจทก์ โจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะเรียกให้จำเลยที่ 3 รับผิดตามสัญญาค้ำประกัน
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177

ผู้พิพากษา

จเร อำนวยวัฒนา
พิชิต พรหมพิทักษ์กุล
สถิตย์ เล็งไธสง

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android