คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1501/2535

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
สัญญาเช่าที่ดินข้อ 6 ระบุว่า "ถ้าผู้ให้เช่าตกลงขายทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้ใดก่อนครบกำหนดการเช่าตามสัญญาแล้ว ผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้าเพื่อผู้เช่าเตรียมตัวออกจากทรัพย์สินที่เช่าเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสองเดือน และผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบด้วยว่าจะตกลงขายให้แก่ผู้ใดเป็นเงินเท่าใด เพื่อผู้เช่าจะได้มีโอกาสตกลงซื้อได้ก่อนในเมื่อเห็นว่าเป็นราคาสมควรฯลฯ" ตามข้อสัญญาดังกล่าวหมายถึงกรณีที่โจทก์ผู้ให้เช่าจะขายที่ดินพิพาทก่อนครบกำหนดการเช่าเท่านั้น จึงจะต้องแจ้งให้จำเลยผู้เช่าทราบ หากโจทก์ไม่ได้ขายที่ดินพิพาทก่อนครบกำหนดการเช่าก็ไม่จำต้องแจ้งให้จำเลยทราบ ดังนั้น แม้ศาลชั้นต้นเห็นว่าประเด็นข้อนี้ที่ว่าโจทก์ไม่ปฏิบัติตามสัญญาเช่าข้อ 6 ข้อเท็จจริงจากคำคู่ความเพียงพอยุติแล้ว คู่ความไม่จำต้องนำสืบก็ตาม หากข้อเท็จจริงปรากฏว่า โจทก์ได้ขายที่ดินพิพาทให้แก่ผู้อื่นไปแล้ว จำเลยก็สามารถนำสืบตามประเด็นข้อต่อไปที่ว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทหรือไม่ เพื่อแสดงให้ศาลเห็นได้ว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทในขณะยื่นคำฟ้อง แต่ทางนำสืบของจำเลยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ขายที่ดินพิพาทให้แก่ผู้ใดโดยมิได้แจ้งให้จำเลยทราบ กลับปรากฏจากทางนำสืบของโจทก์ว่าโจทก์ยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทในขณะยื่นคำฟ้อง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 368
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 537
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183

ผู้พิพากษา

ราเชนทร์ จัมปาสุต
ประวิทย์ ขัมภรัตน์
สุนพ กีรติยุติ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android