คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2535

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ส. พยานโจทก์เบิกความว่า พยานไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำผิดภรรยาของผู้เสียหายบังคับให้พยานไปให้การต่อพนักงานสอบสวนว่าพยานกับจำเลยเป็นผู้กระทำผิด พยานจึงให้การไปเช่นนั้น โดยพนักงานสอบสวนรับว่าจะกันพยานไว้เป็นพยาน ขณะเกิดเหตุพยานเป็นลูกจ้าง ผู้เสียหายและ ร. พี่สาวผู้เสียหายเป็นผู้พาพยานไปให้การต่อพนักงานสอบสวนจึงเป็นไปได้ว่าพยานอาจถูกบังคับให้ไปให้การจริง คำให้การของพยานในชั้นสอบสวนจึงไม่น่าเชื่อถือ ส่วนคำเบิกความในชั้นศาลนั้นพยานเบิกความหลังจากลาออกจากงานที่อู่ของผู้เสียหายแล้วฝ่ายผู้เสียหายจึงไม่อาจบังคับพยานได้อีกต่อไป น่าเชื่อว่าพยานได้เบิกความไปตามความจริง คำเบิกความของพยานจึงมีน้ำหนัก คำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมของจำเลย เป็นเพียงพยานบอกเล่าเมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสนับสนุน ลำพังแต่เพียงคำให้การรับสารภาพดังกล่าว ไม่เพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิดตามฟ้อง.
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227

ผู้พิพากษา

ประพัฒน์ อุชุภาพ
บุญส่ง วรรณกลาง
สะสม สิริเจริญสุข

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android