คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2164/2542

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ศาลฎีกาพิพากษาให้รับบัญชีพยานเพิ่มเติมของจำเลย ซึ่งระบุพระสมุห์ค. เป็นพยาน ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานจำเลยปากนี้เสร็จแล้วให้มีคำพิพากษาใหม่ แม้คำพิพากษาของศาลฎีกาดังกล่าวให้ศาลชั้นต้นสืบพยานปากนี้เสร็จแล้ว ให้พิพากษาคดีได้ทันทีก็ตาม แต่ตามคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยาน เพิ่มเติมในระหว่างศาลชั้นต้นนัดสืบพยานตามคำพิพากษาศาลฎีกา จำเลยได้ระบุว่าพระสมุห์ค. ได้เบิกความเป็นพยานในคดีอาญาอีกเรื่องหนึ่งที่จำเลยเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลย ข้อหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมเกี่ยวกับสัญญากู้ยืมในคดีนี้ และในการคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับบัญชีระบุพยาน เพิ่มเติม จำเลยได้แนบสำเนาคำเบิกความของพระสมุห์ค. มีใจความพอสรุปได้ว่า โจทก์ในคดีนี้ได้นำสัญญากู้และ สัญญาค้ำประกันในคดีนี้ไปให้พระสมุห์ค. กรอกข้อความโดยจำเลยในคดีนี้มิได้รู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งหากพระสมุห์ค. ไม่มรณะภาพและมาเบิกความในคดีนี้ตรงกับคำเบิกความ ในคดีอาญาดังกล่าว ผลของคดีก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไป แต่เมื่อพระสมุห์ค. ถึงแก่มรณะภาพไปแล้ว การที่จำเลยขอระบุพยานเพิ่มเติมอ้างสำนวนคดีอาญาดังกล่าว และสรรพเอกสารรวมทั้งคำเบิกความของพระสมุห์ค. เป็นพยานในคดีนี้พยานหลักฐานที่จำเลยอ้างเพิ่มเติมจึงเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จำเป็นต้องสืบพยานดังกล่าว ศาลย่อมมีอำนาจอนุญาตได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87(2) จึงชอบที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รับบัญชีพยานเพิ่มเติม จำเลยและสืบพยานจำเลยดังกล่าวต่อไปตามรูปคดี
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243

ผู้พิพากษา

สมจิตร ทองประดับ
สมบัติ เดียวอิศเรศ
เสรี ชุณหถนอม

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android