คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8237/2538

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
แม้ในขณะแรกที่จำเลยเข้าครอบครองพื้นที่พิพาทจำเลยได้ทำสัญญาเช่าช่วงกับโจทก์มีความผูกพันกับโจทก์ตามสัญญาเช่าช่วงจำเลยย่อมมีหน้าที่ตามสัญญาที่จะต้องชำระเงินค่าเช่าให้โจทก์ในฐานะเป็นเจ้าหนี้ผู้มีสิทธิรับชำระหนี้เงินค่าเช่าซึ่งจำเลยก็ได้ชำระเงินค่าเช่าให้โจทก์ตลอดมาจนถึงเดือนมีนาคม2534ก็ตามแต่ต่อมาจำเลยได้รับแจ้งจากบริษัทอ.เจ้าของพื้นที่พิพาทแจ้งให้ทราบว่าส.ผู้เช่าพื้นที่พิพาทและโจทก์ทั้งสองหมดสิทธิในสัญญาเช่าที่ทำกับบริษัทอ.ดังกล่าวแล้วให้จำเลยไปทำสัญญาเช่ากับบริษัทอ. และชำระค่าเช่าแก่บริษัทอ.โดยตรงมิฉะนั้นก็ให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากพื้นที่พิพาทอีกทั้งภายหลังปรากฏว่าบริษัทอ.ได้ฟ้องขับไล่ส.กับได้เรียกให้พ.ผู้เช่าช่วงพื้นที่พิพาทจากส.เข้าไปเป็นจำเลยร่วมด้วยจำเลยจึงได้ไปทำสัญญาเช่าพื้นที่พิพาทจากบริษัทอ.มีผลการเช่าตั้งแต่วันที่1เมษายน2534ดังนี้จะเห็นได้ว่าบุคคลผู้ตกอยู่ในภาวะเช่นจำเลยซึ่งมีเจตนาจะเช่าพื้นที่พิพาทไม่สามารถจะหยั่งรู้ถึงสิทธิในการให้เช่าพื้นที่พิพาทได้แน่นอนว่าระหว่างโจทก์และบริษัทอ. ซึ่งต่างก็อ้างว่าเป็นผู้มีสิทธิให้เช่าพื้นที่พิพาทได้ทั้งสองฝ่ายว่าใครจะเป็นผู้มีสิทธิอันแท้จริงกันแน่จำเลยจึงได้นำเงินค่าเช่าตั้งแต่เดือนเมษายน2534ไปวางไว้ที่สำนักงานวางทรัพย์ตลอดมาจำนวนเงินค่าเช่าแต่ละเดือนที่จำเลยวางไว้เป็นเงินเดือนละ14,400บาทเท่ากับค่าเช่าที่ตกลงไว้กับโจทก์ซึ่งมากกว่าที่จำเลยตกลงไว้กับบริษัทอ.เจ้าของพื้นที่พิพาทการวางเงินค่าเช่าของจำเลยดังกล่าวก็โดยเจตนาจะชำระค่าเช่าเพื่อประโยชน์แก่โจทก์หรือบริษัทอ.เจ้าของพื้นที่พิพาทเจ้าหนี้ผู้มีสิทธิอันแท้จริงซึ่งจำเลยไม่อาจจะหยั่งรู้ได้แน่นอนนั่นเองมิได้วางเพียงเพื่อประโยชน์แก่บริษัทอ. เจ้าของพื้นที่พิพาทเท่านั้นเพราะมิฉะนั้นจำเลยคงไม่วางเงินค่าเช่าเป็นรายเดือนละ14,400บาทตามที่ตกลงกับโจทก์และการที่จำเลยวางเงื่อนไขในการรับเงินว่าต้องเป็นเจ้าหนี้ที่มีคำสั่งศาลถึงที่สุดมาแสดงซึ่งมีความหมายว่าศาลมีคำสั่งฟังได้ว่าเจ้าหนี้ผู้นั้นเป็นผู้มีสิทธิในการให้เช่านั่นเองจำเลยจำเป็นต้องวางเงื่อนไขดังกล่าวก็เนื่องมาจากความไม่สามารถจะหยั่งรู้ถึงสิทธิอันแน่นอนระหว่างโจทก์กับบริษัทเจ้าของพื้นที่ทั้งก็เป็นประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งสองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งซึ่งมีสิทธิอันแท้จริงหากไม่วางเงื่อนไขดังกล่าวโจทก์หรือบริษัทอ.เจ้าของพื้นที่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจขอรับเงินที่จำเลยวางไว้โดยยังมิได้พิสูจน์สิทธิอันแท้จริงไปก็ได้ดังนั้นการวางเงินค่าเช่าของจำเลยดังกล่าวมีเหตุผลโดยชอบและมิใช่ความผิดของจำเลยจำเลยมีสิทธิที่จะวางทรัพย์ชำระเงินค่าเช่าได้อันเป็นผลให้จำเลยหลุดพ้นจากหนี้ค่าเช่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา331จำเลยจึงหาเป็นผู้ผิดนัดชำระค่าเช่าแก่โจทก์ไม่โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าช่วงและฟ้องขับไล่เรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 331

ผู้พิพากษา

สละ เทศรำพรรณ
สุรินทร์ นาควิเชียร
สมมาตร พรหมานุกูล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android