คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3072/2541

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) ซึ่งบัญญัติว่าเมื่อปรากฏว่าผู้ใดกระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ศาลลงโทษผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป แต่สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูง เกินสามปีแต่ไม่เกินสิบปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว โทษจำคุกทั้งสิ้นต้องไม่เกินกำหนดยี่สิบปีนั้น เป็นบทบัญญัติ เกี่ยวกับการลงโทษจำคุกจำเลยในกรณีที่จำเลยกระทำความผิดหลายกรรมเกี่ยวพันกัน โดยอาจถูกฟ้องเป็นคดีเดียวกันหรือแยกฟ้องเป็นหลายคดีสำหรับคดีของจำเลยทั้ง 11 คดีซึ่งเป็นคดีที่จำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ 10 คดี และฐานรับของโจร 1 คดีนั้น เป็นการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระแยกต่างหากโดยไม่มีความเกี่ยวพันกัน ทั้งไม่อาจฟ้องเป็นคดีเดียวกันหรือรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้ไม่อยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) จึงนับโทษจำคุกจำเลยในคดีอาญาทั้ง 11 คดี ติดต่อกันเกินกว่า 20 ปีได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91

ผู้พิพากษา

สันติ ทักราล
ณรงค์ศักดิ์ วิจิตรสาระวงศ์
เรืองฤทธิ์ ศรีวรรธนะ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android