คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6108/2540

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ขณะเกิดเหตุมีแสงสว่างจากไฟฟ้าที่เปิดแล้วภายในบ้านผู้เสียหาย แต่ช่วงระยะเวลาที่ผู้เสียหายอ้างว่ามองเห็นและจำใบหน้าของคนร้ายได้เกิดขึ้นตอนที่คนร้ายเข้ามากระชากผมของผู้เสียหาย แล้วลากเข้าไปในห้องครัวเป็นระยะทางประมาณ 3 เมตร โอกาสที่ผู้เสียหายมองเห็นใบหน้าคนร้ายได้ไม่ควรเกิน 1 นาที ผู้เสียหายถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ที่กกหูข้างซ้ายด้วย ย่อมทำให้ผู้เสียหายตกอยู่ในอาการหวาดกลัว และต้องระมัดระวังความปลอดภัยของตนเองมากกว่าที่จะสนใจจดจำใบหน้าคนร้าย ผู้เสียหายไม่เคยรู้จักกับคนร้ายมาก่อน ยิ่งทำให้ไม่มีเหตุผล ที่จะเชื่อได้ว่าผู้เสียหายมองเห็นและจำหน้าคนร้ายได้อย่างแม่นยำ เมื่อผู้เสียหายพบจำเลยที่สถานีตำรวจ ผู้เสียหายไม่ได้ยืนยันทันทีว่าจำเลยเป็นคนร้าย แต่กลับครุ่นคิดอยู่ประมาณ 4 ถึง 5 นาที พยานโจทก์ซึ่งร่วมอยู่ในเหตุการณ์เดียวกับผู้เสียหายก็ยอมรับว่าจำคนร้ายไม่ได้เมื่อไม่ปรากฏว่าของกลางของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายปล้นไปถูกยึดได้จากจำเลย เพียงแต่จำเลยมีลักษณะใบหน้าและแผลเป็นที่หลังเท้าด้านซ้ายคล้ายกับคนร้ายที่ผู้เสียหายมองเห็นจึงยังไม่มีน้ำหนักมั่นคงพอ ตามพฤติการณ์แห่งคดีพยานหลักฐานโจทก์มีเหตุสงสัยตามสมควรว่า จำเลยเป็นคนร้ายรายนี้หรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227
  • พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 227

ผู้พิพากษา

สุนทร สิทธิเวชวิจิตร
อร่าม หุตางกูร
อำนวย เต้พันธ์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android