คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7311/2539

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
การที่จำเลยร่วมที่ 1 ทำหนังสือมีข้อความว่า "ตามที่จำเลยได้รับหมายเรียกจากศาลเพื่อดำเนินคดีในการใช้และมีโทรศัพท์มือถือพิพาทของโจทก์ไว้ในครอบครองโดยได้รับแจ้งจากโจทก์ให้นำเครื่องส่งมอบคืนและชำระหนี้ที่ยังคงค้างชำระอยู่นั้น จำเลยได้ส่งมอบคืนให้โจทก์แล้วตั้งแต่วันที่ 20กุมภาพันธ์ 2533 โดยส่งคืนผ่านทางจำเลยร่วมที่ 1 และจำเลยร่วมที่ 2 เพื่อนำมอบให้แก่โจทก์ หากมีการดำเนินคดีหรือเรียกร้องค่าเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใด จำเลยร่วมที่ 1จะเป็นผู้รับผิดชอบร่วม" นั้น เป็นคำเสนอของจำเลยร่วมที่ 1ทำให้เกิดสัญญาระหว่างจำเลยกับจำเลยร่วมที่ 1 โดยจำเลยร่วมที่ 1 ต้องร่วมกับจำเลยรับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาดังกล่าว การที่จำเลยร่วมที่ 1 ฎีกาว่าราคาวิทยุคมนาคมมีราคาเครื่องละไม่เกิน 15,000 บาท มิใช่ราคา 97,000 บาท เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งมีทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกิน 200,000 บาท ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง จำเลยตกลงชำระค่าเช่าวิทยุคมนาคมพิพาทพร้อมอุปกรณ์และค่าเช่าหมายเลขเครื่องวิทยุคมนาคมรวมค่าธรรมเนียมใบอนุญาตกรมไปรษณีย์โทรเลข หากจำเลยและจำเลยร่วมทั้งสองคืนเครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์พิพาทให้แก่โจทก์ทันทีที่โจทก์บอกเลิกสัญญา โจทก์ย่อมสามารถนำเครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์พิพาทไปให้บุคคลอื่นเช่าโดยได้รับค่าเช่าในอัตราดังกล่าวได้ การที่จำเลยและจำเลยร่วมทั้งสองไม่ส่งมอบเครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์พิพาทคืนโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย ขาดประโยชน์จากการนำเครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์พิพาทไปให้บุคคลอื่นเช่าในอัตราดังกล่าว แม้โจทก์บอกเลิกสัญญาแล้ว โจทก์ก็ยังมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายในการที่โจทก์ต้องขาดประโยชน์จากการให้เช่าวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์พิพาทจนกว่าจะได้รับมอบเครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์พิพาทคืน การที่ศาลพิพากษาให้จำเลยและจำเลยร่วมที่ 1 ร่วมกันชำระค่าเสียหายเป็นค่าขาดประโยชน์คิดถึงวันฟ้องพร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ เป็นการพิพากษาให้จำเลยร่วมและจำเลยร่วมที่ 1 ร่วมกันชำระดอกเบี้ยของต้นเงินซึ่งถึงกำหนดชำระแล้วนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป ส่วนที่ศาลพิพากษาให้จำเลยและจำเลยร่วมทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายเป็นรายเดือนนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะส่งมอบเครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์พิพาทคืนโจทก์หรือชดใช้ราคา เป็นการพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายในการที่โจทก์ขาดประโยชน์จากการนำเครื่องวิทยุและอุปกรณ์พิพาทไปให้ผู้อื่นเช่า นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจึงไม่เป็นการกำหนดค่าเสียหายซ้ำซ้อนกันแต่อย่างใด
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

ผู้พิพากษา

อัครวิทย์ สุมาวงศ์
ก้าน อันนานนท์
อำนวย หมวดเมือง

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android