คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10418/2546

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน 9 ษ - 2128 กรุงเทพมหานคร ไว้จากเจ้าของรถยนต์ดังกล่าว โดยมีกำหนดระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2541 ถึงวันที่ 1 กันยายน 2542 ซึ่งเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2540 จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์หมายเลขทะเบียน ก - 7632 สุพรรณบุรี ของจำเลยที่ 2 ในทางการที่จ้างหรือตามที่ได้รับมอบหมายหรือยินยอมของจำเลยที่ 2 ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวัง เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนกับรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยได้รับความเสียหาย ซึ่งหากพิจารณาข้อความที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้องดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเหตุละเมิดเกิดก่อนวันที่สัญญาประกันภัยมีผลคุ้มครอง แต่ในการแปลคำฟ้องนั้นมิได้พิจารณาเฉพาะข้อความที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้องเท่านั้น ต้องพิจารณาเอกสารท้ายฟ้องซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้องประกอบด้วยเมื่อพิจารณาเอกสารที่โจทก์แนบมาท้ายฟ้องต่างระบุตรงกันว่าเหตุละเมิดเกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2542 เห็นได้ชัดว่าโจทก์พิมพ์ปีที่เกิดเหตุละเมิดผิดพลาด ซึ่งถือว่าเป็นความผิดพลาดเล็กน้อยอันเป็นรายละเอียดแห่งคำฟ้อง กรณีถือได้ว่าโจทก์ได้อ้างในคำฟ้องแล้วว่า เหตุละเมิดเกิดในระหว่างอายุสัญญาประกัน ดังนั้น เมื่อโจทก์อ้างว่าโจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไปแล้ว โจทก์ย่อมรับช่วงสิทธิมาเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้ทำละเมิด และจำเลยที่ 2 ในฐานะนายจ้างหรือตัวการให้ร่วมรับผิดในมูลละเมิดดังกล่าวได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง แม้โจทก์จะมิได้ขอแก้ไขคำฟ้องในส่วนที่พิมพ์ผิดพลาดดังกล่าวและไม่ว่าจำเลยทั้งสองจะให้การต่อสู้ในเรื่องนี้หรือไม่ก็ตาม ก็ไม่มีผลกระทบต่ออำนาจฟ้องของโจทก์
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180

ผู้พิพากษา

ชวลิต ยอดเณร
กุลพัชร์ อิทธิธรรมวินิจ
ประเสริฐ เขียนนิลศิริ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android