คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2460/2517

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์ทำเครื่องเฟอร์นิเจอร์ส่งให้จำเลยโดยจำเลยจัดอุปกรณ์หรือมอบเงินให้โจทก์จัดซื้อ และปรากฏว่ามีหนี้สินเกี่ยวค้างกันอยู่แล้วได้ไปคิดบัญชีกันที่สถานีตำรวจปรากฏว่าโจทก์เป็นหนี้จำเลย11,626 บาท และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกรายงานเบ็ดเสร็จประจำวันไว้มีใจความว่า ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงระงับข้อพิพาทเรื่องเกี่ยวกับการส่งตู้เฟอร์นิเจอร์โดยจำเลยได้ออกทุนค่าส่งวัตถุไปก่อนเพื่อให้โจทก์เป็นผู้ทำเครื่องเฟอร์นิเจอร์ส่งให้จำเลยได้ดำเนินกิจการมา 1 ปีเศษทั้งสองฝ่ายได้คิดบัญชีกันแล้ว แต่ปรากฏว่าโจทก์ยังคงค้างเงินอยู่ อีก 11,600 บาท และโจทก์ยอมรับว่าเป็นหนี้อยู่จริงทั้งสองฝ่ายจึงมาแจ้งไว้เป็นหลักฐานและลงชื่อทั้งสองฝ่ายไว้ถือว่าเป็นสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยด้วยใจสมัครมุ่งประสงค์จะระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับหนี้สินที่เกิดขึ้นในการค้าระหว่างโจทก์จำเลย และยังตกลงกันไม่ได้ให้เป็นการเสร็จไป โดยโจทก์ยอมรับว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าหนี้จำเลยดังที่กล่าวอ้างไว้ก่อนตกลงทำสัญญากับจำเลย และจำเลยยอมให้เป็นไปตามบัญชีบันทึกไว้กับยอมตัดเศษเงินที่โจทก์เป็นหนี้ออก อันเป็นการยอมผ่อนผันให้แก่กันจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 850 มีผลทำให้ข้อเรียกร้องของแต่ละฝ่ายที่มีอยู่ก่อนทำสัญญานั้นระงับสิ้นไป และจำเลยได้สิทธิขึ้นใหม่ตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 852 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 9/2517)
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852

ผู้พิพากษา

สงวน สิทธิไชย
สุธรรม วรรณแสง
สนิท บริรักษ์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android