คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333/2516

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ฟ้องโจทก์บรรยายไว้ชัดเจนว่า จำเลยได้บังอาจเสพเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดต้องห้ามโดยเด็ดขาด ซึ่งไม่ทราบจำนวนรับเข้าร่างกายด้วยการสูบ และตามวันเวลาดังกล่าว จำเลยได้มีไว้ในความครอบครองซึ่งเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดต้องห้ามโดยเด็ดขาดซึ่งเหลือจากที่จำเลยเสพแล้วไว้ในความครอบครองของจำเลย ฯลฯ จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นการยอมรับข้อกล่าวหาของโจทก์ว่าจำเลยเสพเฮโรอีน และมีเฮโรอีนที่เหลือจากการเสพไว้ในความครอบครองจริง ทั้ง 2 กระทงความผิดเป็นความผิดที่แยกกันได้ เพราะข้อหาฐานมีเฮโรอีนนั้นโจทก์มุ่งถึงเฮโรอีนซึ่งจำเลยมีอยู่หลังจากได้เสพไปบ้างแล้ว มิใช่เฮโรอีนที่จำเลยทั้งสองได้เสพไปแล้วซึ่งจะต้องมีอยู่จึงจะเสพได้จึงลงโทษจำเลยทั้งสองฐานได้
เสพเฮโรอีนและมีเฮโรอีนที่เหลือจากการเสพไว้ในความครอบครองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน เป็นกระทงความผิด เมื่อจำเลยกระทำความผิดภายหลังวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 มีผลใช้บังคับแล้ว ต้องลงโทษจำเลยเป็นรายกระทงความผิด
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2504 มาตรา 4 ทวิ
  • พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2504 มาตรา 20 ตรี
  • พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2504 มาตรา 22
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
  • ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 มาตรา 2
  • พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 มาตรา 2

ผู้พิพากษา

แผ้ว ศิวะบวร
สัญชัย สัจจวานิช
ศวิต สมหวัง

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android