คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 746/2538

 แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยที่ 1 ต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำ เรือนจำมิใช่ท้องที่ที่จำเลยที่ 1 มีถิ่นที่อยู่ ไม่อาจถือได้ว่าเป็น ภูมิลำเนาของจำเลยที่ 1 โจทก์จะฟ้องจำเลยที่ 1 ในมูลละเมิดต่อศาลชั้นต้นที่เรือนจำตั้งอยู่มิได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2) เดิม แต่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีการประกาศใช้ มาตรา 4(1) โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2534ทำให้โจทก์มีอำนาจฟ้องคดีต่อศาลชั้นต้นดังกล่าวซึ่งเป็นศาลที่มูลคดีเกิดได้ด้วย ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจรับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณา จำเลยที่ 2 ต้องเสียค่าบริการให้จำเลยที่ 3 เป็นรายวันเพื่อตอบแทนการนำรถยนต์โดยสารคันเกิดเหตุเข้าร่วมแล่นกับจำเลยที่ 3 การเดินรถคันดังกล่าวจึงเป็นกิจการร่วมกัน การที่จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันดังกล่าวในขณะเกิดเหตุโดยรับจ้างจำเลยที่ 2 จึงเป็นการกระทำของลูกจ้างในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 3 ด้วย ขณะเกิดเหตุโจทก์ที่ 2 เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์คันที่ถูกจำเลยที่ 1 ขับชน โดยโจทก์ที่ 2 ต้องรับผิดซ่อมแซมรถด้วยโจทก์ที่ 2 ย่อมมีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ แม้ต่อมาสัญญาเช่าซื้อจะเลิกกันก็ไม่เป็นเหตุให้สิทธิของโจทก์ที่ 2 ซึ่งมีอยู่แล้วระงับสิ้นไป
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4 เดิม
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55

ผู้พิพากษา

สถิตย์ ไพเราะ
พรชัย สมรรถเวช
สมคิด ไตรโสรัส

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android