คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4731/2530

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญาจ้างแล้ว โจทก์จำเลยจำต้องกลับคืนสู่ฐานะดังเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 ดังนี้ แม้ตามสัญญาจะไม่ปรากฏว่ามีข้อกำหนดให้ใช้เงินตอบแทนในกรณีผิดสัญญาไว้ โจทก์ก็มีสิทธิที่จะได้รับชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาของจำเลยโดยตรง ส่วนจำเลยก็มีสิทธิเรียกร้องให้โจทก์ใช้เงินตามผลงานที่จำเลยทำให้โจทก์เช่นกัน
ก่อนโจทก์ตกลงจ้างจำเลย จำเลยรู้อยู่แล้วว่าโจทก์กำลังก่อสร้างบ้านพักให้คนงานอยู่อาศัยแทนที่พักเดิม ซึ่งพักอยู่บนชั้น 2 ของห้องเครื่อง เมื่อจำเลยรับรองว่าจะปรับปรุงซ่อมแซมอาคารโรงงานโจทก์ไม่ให้ทรุดลงต่อไป และใช้ชั้น 2 ซึ่งอยู่ชั้นบนของห้องเครื่องโรงงานโจทก์เป็นที่พักคนงานได้ตามเดิม การที่โจทก์ต้องรื้อที่พักคนงานชั้น 2 ดังกล่าวเพื่อมิให้ห้องเครื่องโรงงานโจทก์ทรุดต่อไปและรื้อบ้านพักคนงานที่กำลังก่อสร้าง ค่าเสียหายทั้งสองประการนี้เป็นค่าเสียหายที่เกิดจากการผิดสัญญาของจำเลยโดยตรง ซึ่งจำเลยย่อมคาดเห็นหรืออยู่ในฐานะควรจะได้คาดเห็นล่วงหน้าไม่ใช่เป็นค่าเสียหายที่ไกลเกินกว่าเหตุ แต่ค่าเสียหายในส่วนที่เป็นค่ากั้นห้องชั้น 2 ของโรงงานโจทก์นั้น เมื่อศาลกำหนดให้จำเลยรับผิดสำหรับค่าเสียหายในส่วนที่เป็นค่ารื้อที่พักคนงานชั้น 2 บนห้องเครื่องของโรงงานโจทก์แล้ว ค่าเสียหายในการกั้นห้องจึงเป็นค่าใช้จ่ายในการดัดแปลงชั้น 2 ของโรงงานโจทก์และไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รู้หรือควรจะได้รู้อยู่แล้วว่าหากซ่อมแซมแก้ไขมิให้อาคารโรงงานโจทก์ทรุดต่อไปแล้ว จำเลยยังจะต้องกั้นห้องชั้น 2 ของโรงงานโจทก์ให้ด้วย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหายส่วนนี้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 222
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391

ผู้พิพากษา

เฉลิม การปลื้มจิตต์
วิฑูรย์ ตั้งตรงจิตต์
ไมตรี กลั่นนุรักษ์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android