คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2012/2528

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
การที่จะพิจารณาว่าฟ้องแย้งเคลือบคลุมหรือไม่ต้องพิจารณาคำให้การและฟ้องแย้งทั้งฉบับรวมกัน(คำให้การและฟ้องแย้งที่จำเลยขอให้บังคับโจทก์ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ดินที่ถือได้ว่ามิได้ขัดกันหรือแย้งกันเป็นสองฝักสองฝ่าย เป็นฟ้องแย้งที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ประกอบด้วยมาตรา 177)
โจทก์ผู้ซื้อทำสัญญาซื้อขายและมัดจำที่ดินซึ่งมีสภาพเป็นป่าที่จำเลยผู้ขายใช้สิทธิครอบครองอยู่เพื่อมาบุกเบิกให้เตียนใช้ทำประโยชน์ได้เอาเองทั้งนี้โดยไม่มีเจตนาที่จะไปทำการโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อได้มีการตรวจสอบการกั้นเขตและวัดอาณาเขตที่ดินดังกล่าวทั้งสี่ด้านและคำนวณเนื้อที่ได้ตามที่ตกลงกันและจำเลยได้ส่งมอบที่ดินที่ซื้อขายให้โจทก์แล้ว แม้ต่อมาได้มีผู้อื่นบุกรุกเข้าทำประโยชน์ในที่ดินนั้นทั้งแปลงจนโจทก์ไม่สามารถเข้าครอบครองถากถางให้แล้วเสร็จได้ตามเงื่อนไขการชำระเงินในสัญญาที่ว่าเมื่อโจทก์ถากถางแล้วเสร็จจะได้มาจ่ายเงินให้ครบตามสัญญาให้กับจำเลยก็ตาม ย่อมเป็นความผิดของโจทก์เองที่ไม่รีบเข้าถากถางครอบครองเสียปล่อยปละละเลยจนเสียสิทธิไปอันไม่ใช่ความผิดของจำเลยโจทก์จึงต้องชำระเงินส่วนที่เหลือตามสัญญาให้แก่จำเลย
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 453
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 486
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1378
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177

ผู้พิพากษา

ยนต์ พิรวินิจ
สมบูรณ์ บุญภินนท์
พจน์ บุญเลี้ยง

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android